ด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 มีความประสงค์จะขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 19 รายการ ตามคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่ ๒๐๗๒/๒๕๖๔ ลงวันที่ 20 เมษายน 2564 โดยจะทำการขายทอดตลาด ในวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานจอดรถหน้าอาคารสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 เลขที่ 434 ถนนไทรบุรี ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา รายละเอียดทรัพย์สินตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
1. ผู้ที่จะขอเข้าสู้ราคาจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการขายทอดตลาดกำหนดข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
1.1 มีเอกสารยืนยันการตรวจหาโรคโควิด - 19 เป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง ด้วยวิธี Real-time PCR หรือวิธี Antigen Test Kit ซึ่งออกโดยโรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน
1.2 กรณีได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ต้องมีเอกสารรับรองในแอปฯ หมอพร้อม
- ชนิด Sinovac, Sinopharm, Pfizer, Moderna, Sputhik V หรือแบบไขว้ ครบ 2 เข็ม เกิน 14 วัน
- ชนิด Johnson & Johnson, AstraZeneca 1 เข็ม เกิน 14 วัน
1.3 กรณีหายป่วยจากการติดเชื้อ ได้แก่ บุคคลผู้เคยได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) และหายป่วยมานานแล้วไม่เกิน 90 วัน ซึ่งต้องแสดงเอกสารใบรับรองแพทย์หรือเอกสารรับรองที่ออกจากโรงพยาบาลต่อเจ้าหน้าที่
2. ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาติดต่อขอลงทะเบียนและดูสภาพทรัพย์สิน ดังนี้
2.1 ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาจะติดต่อขอดูทรัพย์สินได้ตามรายละเอียดปรากฏตามบัญชีแนบท้ายประกาศ และขอดูภาพถ่ายทรัพย์สินในวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 10.00 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 9 เลขที่ 434 ถนนไทรบุรี ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ถือว่าผู้เข้าสู้ราคาได้ตรวจดูสภาพทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดจนเป็นที่พอใจแล้ว และจะไม่รับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินไม่ว่ากรณีใด ๆ
2.2 กำหนดการลงทะเบียนเข้าประมูลราคา วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. และดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
2.3 ผู้ประสงค์จะเข้าสู้ราคาในการประมูลทรัพย์สินที่ราคาเริ่มต้นเกิน 1,000,000 บาท จะต้องวางหลักประกันในการเข้าสู้ราคาเป็นเงินสด หรือแคชเชียร์เช็คของธนาคาร โดยสั่งจ่าย “กองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด” รายการละ 100,000 บาท ต่อคณะกรรมการขายทอดตลาดก่อนจึงจะมีสิทธิเข้าสู้ราคา และจะคืนให้ผู้เข้าสู้ราคาต่อเมื่อการขายทอดตลาดนั้นเสร็จแล้ว ในกรณีที่ผู้เข้าสู้ราคาผู้ใดเป็นผู้ชนะการประมูลให้ถือว่าหลักประกันของผู้เข้าสู้ราคาผู้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคา
3. ดำเนินการประมูลราคาโดยปากเปล่า ต่อหน้าคณะกรรมการขายทอดตลาดของสำนักงาน ป.ป.ส. และต่อหน้าผู้สู้ราคาที่มีอยู่
4. คณะกรรมการขายทอดตลาด จะแสดงความตกลงด้วยการเคาะไม้ แต่หากคณะกรรมการขายทอดตลาดเห็นว่าราคาที่ผู้สู้ราคาสูงสุดยังไม่เพียงพอกับราคาทรัพย์สินที่จะขาย คณะกรรมการขายทอดตลาดอาจถอนรายการที่ไม่สมควรประมูลนั้น ๆ ออกจากการประมูลได้ และสำนักงาน ป.ป.ส. ทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะยกเลิกการประมูลในรายการที่ไม่เห็นสมควรนั้น ๆ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ผู้สู้ราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
5. หากคณะกรรมการขายทอดตลาด ตกลงขายทรัพย์สินรายการใดให้กับผู้สู้ราคาสูงสุดแล้ว ผู้นั้นจะต้องชำระเงินในรายการนั้นทันที หรือชำระเงินมัดจำไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๒๕ ของราคาที่ประมูลได้ ในกรณีที่ราคาประมูลทรัพย์สินที่มีราคาตั้งแต่หนึ่งแสนบาทขึ้นไป ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. จะออกใบเสร็จรับเงินไว้ให้เป็นหลักฐาน ส่วนราคาที่เหลือผู้สู้ราคารายนั้นจะต้องชำระเงินให้เสร็จสิ้นภายในเวลาไม่เกิน ๓๐ วัน นับแต่วันขาย หากไม่ชำระภายในเวลาที่กำหนด สำนักงาน ป.ป.ส. จะริบเงินมัดจำนั้นเสีย และหากการประมูลครั้งใหม่ได้เงินเป็นจำนวนสุทธิ ไม่คุ้มกับการประมูลครั้งก่อน ผู้ประมูลเดิมจะต้องรับผิดชอบชดใช้ราคาในส่วนที่ขาดอยู่นั้น
6. กรณีทรัพย์สินรายการใดคณะกรรมการขายทอดตลาดกำหนดให้มีการวางหลักประกัน ผู้เข้าสู้ราคาจะต้องวางหลักประกันเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คของธนาคารในวงเงินตามบัญชีแนบท้ายประกาศก่อน จึงจะมีสิทธิ์เข้าสู้ราคา และจะคืนหลักประกันให้กับผู้เข้าสู้ราคาต่อเมื่อการขายทอดตลาดรายการนั้นสิ้นสุดแล้ว และกรณีที่ผู้เข้าสู้ราคาผู้ใดเป็นผู้ประมูลซื้อได้ ถือว่าหลักประกันของผู้เข้าสู้ราคานั้น เป็นส่วนหนึ่งของการชำระเงิน
7. สำนักงาน ป.ป.ส. ขอสงวนสิทธิ์ในการถอนทรัพย์สินรายการใด ๆ ตามประกาศออกจากการขายก่อนการขายทอดตลาดตามความเหมาะสม เพื่อให้การขายเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยผู้ที่เข้าร่วมประมูลสู้ราคา จะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ไม่ได้ทั้งนั้น
8. รายละเอียดและเงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการขายทอดตลาดพิจารณาเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมตามความเหมาะสมของ สถานการณ์
อนึ่ง การเข้าสู้ราคาในครั้งนี้ ผู้สู้ราคาทุกคนจะต้องนำบัตรประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือบัตรแสดงตนที่ทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่งมาแสดงในวันประมูลด้วย และในกรณีที่ผู้สู้ราคาประสงค์จะเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น ให้แสดงใบมอบอำนาจก่อนเข้าสู้ราคา ถ้าไม่แสดงให้ถือว่าเข้าสู้ราคาในนามตนเอง และหากเข้าสู้ราคาได้ในนามตนเอง หรือในนามที่ได้รับมอบอำนาจแล้วนั้น จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นชื่อบุคคลอื่นได้ในภายหลัง ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.oncb.go.th/ข่าวขายทอดตลาด